ภาวะพบเม็ดเลือดแดงในปัสสาวะโดยที่ไม่มีอาการ (Asymptomatic Microscopic Hematuria)
ตรวจร่างกายพบเม็ดเลือดแดงในปัสสาวะหมายความว่าอย่างไร? อันตรายหรือไม่?
หลายๆท่านอาจเคยตรวจร่างกายประจำปีแล้วพบว่ามีเม็ดเลือดแดงในปัสสาวะ ทั้งๆที่ปัสสาวะของเราก็ใสดี ไม่แดง ไม่มีอาการผิดปกติอะไร แล้วการพบเม็ดเลือดแดงในปัสสาวะนั้นสำคัญอย่างไร เกี่ยวกับโรคใดได้บ้าง จะเป็นนิ่วจริงเหมือนกับที่คนอื่นว่าหรือไม่ วันนี้เรามีคำตอบมาให้คลายสงสัยกัน
พบเม็ดเลือดแดงกี่ตัวถึงจะเรียกว่าผิดปกติ
ในปัสสาวะของคนปกติสามารถที่จะพบเม็ดเลือดแดงในปัสสาวะได้ปริมาณเล็กน้อย แต่ถ้าการตรวจพบเม็ดเลือดแดงมากกว่าหรือเท่ากับ 3 ตัวในกล้องจุลทรรศน์กำลังขยาย 400 เท่า(RBC ≥3 /HPF) จึงถือว่าเริ่มน่าสงสัยว่าอาจมีภาวะผิดปกติได้ (microscopic hematuria) แต่ปัสสาวะที่นำมาตรวจนั้นต้องเก็บอย่างถูกต้อง ไม่ปนเปื้อน(การเลือกเก็บปัสสาวะตอนช่วงกลางของปัสสาวะ), ไม่ได้มีภาวะการติดเชื้อระบบปัสสาวะอยู่ขณะเก็บปัสสาวะ, ในผู้หญิงควรเก็บปัสสาวะขณะไม่มีประจำเดือนเพราะอาจมีการปนเปื้อนเลือดจากประจำเดือนได้ และการตรวจคัดกรองโดยใช้แผ่นจุ่มตรวจปัสสาวะแล้วพบว่ามีเลือดปนในปัสสาวะจำเป็นที่ต้องจะต้องตรวจเพิ่มเติมต่อด้วยการส่องทางกล้องจุลทรรศน์อีกครั้ง
แล้วสาเหตุของการพบเม็ดเลือดแดงในปัสสาวะเกิดจากอะไรบ้าง
สาเหตุของการพบเม็ดเลือดแดงในปัสสาวะมีมากมาย โดยอาจแบ่งออกได้คร่าวๆเป็น 2 กลุ่ม เป็นสาเหตุที่เกี่ยวข้องกับอายุรกรรมโรคไต เช่นภาวะไตอักเสบ เป็นต้น โดยในปัสสาวะนั้นอาจพบว่ามีโปรตีนรั่วในปัสสาวะ (proteinuria) หรือมีลักษณะของเม็ดเลือดแดงที่ผิดรูป (dysmorphic RBC) ร่วมด้วย ถ้าพบลักษณะดังกล่าวแนะนำให้พบกับคุณหมอทางด้านอายุรกรรมเป็นหลัก และสาเหตุที่เกี่ยวข้องกับทางศัลยกรรมระบบปัสสาวะ เช่นโรคต่อมลูกหมากโตในเพศชาย, โรคนิ่ว, โรคเนื้องอกในระบบปัสสาวะ เป็นต้น ในที่นี้จะขอกล่าวถึงสาเหตุที่เกี่ยวข้องกับทางศัลยกรรมระบบปัสสาวะเป็นหลัก
โดยมีงานวิจัยพบว่าสาเหตุส่วนมากมักจะเกิดจากโรคต่อมลูกหมากโต, โรคนิ่ว, ภาวะติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ โดยมีส่วนน้อยประมาณ 2.6% ที่พบว่าเกิดจากโรคมะเร็งในระบบทางเดินปัสสาวะ โดยที่จากการวิจัยพบว่าถ้าพบว่ามีเม็ดเลือดแดงในปัสสาวะร่วมกับความเสี่ยงดังตารางที่ 1 จะเพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งในระบบทางเดินปัสสาวะมากขึ้น
ตารางที่ 1 : ความเสี่ยงในการเพิ่มโอกาสการเป็นมะเร็งในระบบทางเดินปัสสาวะในผู้ที่มีเม็ดเลือดแดงในปัสสาวะ |
เป็นเพศชาย |
อายุมากกว่า 35 ปี |
มีประวัติสูบบหรี่ |
มีประวัติสัมผัสต่อสารเคมีจำพวกเบนซีนหรือสีย้อมผ้า |
มีประวัติติดยาจำพวกแก้ปวด (Analgesic abuse) |
มีประวัติปัสสาวะเป็นสีเลือด (Gross hematuria) |
มีอาการปัสสาวะบ่อย ปัสสาวะแสบ ร่วมด้วย (Irritaive symptom) |
เคยมีประวัติฉายแสงที่บริเวณอุ้งเชิงกรานมาก่อน |
มีประวัติติดเชื้อทางเดินปัสสาวะเรื้อรัง เป็นๆหายๆ |
มีประวัติเคยได้รับเคมีบำบัดมาก่อนหน้านี้ |
ถ้าตรวจพบเม็ดเลือดแดงในปัสสาวะแล้วควรทำไงต่อดี
ในผู้ที่พบเม็ดเลือดแดงในปัสสาวะ (microscopic hematuria) ควรไปพบแพทย์เพื่อได้รับการคัดกรองสาเหตุอื่นๆที่อาจทำให้พบเม็ดเลือดแดงในปัสสาวะ เช่น การมีประจำเดือน , การติดเชื้อในระบบปัสสาวะ ควรได้รับการตรวจปัสสาวะซ้ำหลังจากได้รับการรักษาแล้วหรือตรวจซ้ำหลังจากหมดประจำเดือน ถ้าพบว่ายังคงมีเม็ดเลือดแดงในปัสสาวะควรได้รับการตรวจเพิ่มเติม เช่น การตรวจค่าการทำงานของไต , การส่องกล้องตรวจทางเดินปัสสาวะ หรือการตรวจทางรังสีวิทยา เช่น การเอกซเรย์ร่วมกับการฉีดสารทึบแสง (Intravenous Pyelography) , การทำอัลตราซาวน์ไต (KUB ultrasound) , การตรวจด้วยเอกซเรย์คอมพิวเตอร์หรือการตรวจด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า เป็นต้น เพื่อหาสาเหตุที่ทำให้มีเม็ดเลือดแดงในปัสสาวะ เพื่อการรักษาต่อไป
โดยสรุปถ้าพบเม็ดเลือดแดงในปัสสาวะจากการตรวจร่างกายประจำปี ถ้าพบว่ามีเม็ดเลือดแดงอยู่ในเกณฑ์ผิดปกติควรไปพบแพทย์เพื่อประเมิน หาสาเหตุต่อน่ะครับ
นพ.ดุษฎี โสวรรณทิพย์
3 พฤศจิกายน 2556